นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่ารถกระบะ ไฮลักซ์ แชมป์ มีจุดเด่นจากกระบะพื้นเรียบแบบเปิดได้ 3 ทางแล้ว ที่นำไปดัดแปลงตัวรถได้หลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล ในราคาเริ่มต้น 459,000 บาท และส่วนดัดแปลงจาก 8 ผู้ประกอบการดัดแปลงที่ร่วมกันพัฒนาไม่เกิน 350,000 บาท

นายจุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาคบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด  กล่าวถึงการพัฒนาไฮลักซ์ แชมป์ ว่าได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของลูกค้าเป้าหมายและ ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์หลักๆ 10 บริษัท เพื่อให้เข้าใจลักษณะการใช้งานรวมทั้งความต้องการจึงเป็นที่มาของกระบะพื้นเรียบเหมาะกับการบรรทุกเบาและการดัดแปลงที่ง่ายกว่า เพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน ธุรกิจของลูกค้า และการติดตั้ง Accessory เพิ่มเติมเพื่อใช้ในกิจกรรมวันว่างอีกด้วย  

โดยมีจุดเด่น 5 ด้านสำคัญคือ 1. ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ถูกกว่ารถกระบะตอนเดียวทั่วไป เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีรายได้ระดับพื้นฐานเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ 2. ครอบคลุมธุรกิจทุกรูปแบบ ด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นฐานล้อที่มีทั้งช่วงสั้น และช่วงยาว 2 รูปแบบการบรรทุกทั้งกระบะท้ายเรียบและไม่มีกระบะท้าย รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่มีถึง 3 ขนาด และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ที่สำคัญกระบะท้ายยังเป็นพื้นเรียบเปิดได้ 3 ทาง และมีขนาดความจุมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด

3. ขนาดกะทัดรัดคล่องตัว ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กสามารถเข้า-ออก ตามซอกซอยได้อย่างคล่องตัว 4. ทนทาน เนื่องจากใช้พื้นฐานโครงสร้าง และเครื่องยนต์เดียวกับ HILUX REVO จึงไม่มีข้อกังขาเรื่องความทนทานอย่างแน่นอน และ 5. ง่ายต่อการดัดแปลง จุดขายหลักที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดต้นทุนและเวลาการดัดแปลงรถ เนื่องจากโครงสร้างออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อผู้ประกอบการดัดแปลงรถ เช่น การเตรียมพื้นที่สำหรับเจาะไว้ตามจุดต่างๆ กันชนที่สามารถถอดแยกชิ้นเปลี่ยนได้ทำให้ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการซ่อมบำรุง

ด้าน นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดสำหรับรถรุ่นนี้ว่าเหมาะสำหรับภาคธุรกิจหรือ Start up นำไปตกแต่ง หรือต่อเติมให้เข้ากับกิจกรรมสันทนาการได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ โดยโตโยต้าได้นำร่องจากผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ 8 แห่ง ที่พัฒนารูปแบบการใช้งานให้เลือกมากถึง 13 รูปแบบ เช่น รถบ้านเคลื่อนที่, รถติดตั้งตู้ขนส่งสินค้า (แบบแห้ง), แบบขนส่งคุมอุณหภูมิพร้อมเครื่องทำความเย็น, รถขายของเคลื่อนที่แบบน็อกดาวน์, รถขายของเคลื่อนที่แบบ 2 ด้าน, รถเครนชนิดเคลื่อนที่, รถแคมป์ปิ้ง,  รถแต่งเพื่อความสวยงาม โดยโตโยต้าได้จัดทำคู่มือการดัดแปลงรถและส่งไปยังผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ทั่วประเทศเพื่อให้ศึกษาถึง HILUX CHAMP ล่วงหน้า ทำให้แน่ใจว่าทั้งกระบวนการ และอุปกรณ์ดัดแปลงที่ผู้ประกอบการฯ จะมีความพร้อม โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์มากกว่า 100 แห่งพร้อมดำเนินการได้

“ด้านช่องทางการขายนั้นได้รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ข้อมูลผลิตภัณฑ์รถดัดแปลง แพ็กเกจการขาย ราคาประมาณการ และการคำนวณราคาเช่าซื้อ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกจากการคำนวณต้นทุนการดัดแปลงเบื้องต้นและหลังจากนั้น เมื่อลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อส่วนดัดแปลงได้แล้ว ยังสามารถรวมค่าใช้จ่ายของส่วนดัดแปลงนั้นๆ ลงในยอดจัดได้สูงสุดถึง 350,000 บาทอีกด้วย”

ส่วนการสนับสนุน SME ของไทยนายศุภกร กล่าวว่า “นอกจากการจำหน่ายรถแล้วเรายังมีแนวคิดในการนำเสนอโซลูชั่นทางธุรกิจแบบครบวงจร เช่น ลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ สามารถซื้อรถพร้อมแฟรนไชส์ได้ ในปีหน้าลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจกาแฟเป็นของตัวเองโตโยต้ามีแฟรนไชส์ “TOGETA” นอกจากนี้กำลังศึกษาการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ แฟรนไชส์ชั้นนำเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ในการเลือกธุรกิจของตัวเองได้กว้างขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้นโดยมุ่งเน้นการสนับสนุนแฟรนไชส์ท้องถิ่น ในการขยายธุรกิจผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมมือกับแบรนด์แฟรนไชส์ชั้นนำในการทำแพ็คเกจให้สอดคล้องกับความต้องการ ดังจะเห็นได้ว่าโตโยต้าอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้แก่คนไทยในการเริ่มต้นและต่อยอดธุรกิจ พร้อมทั้งเคียงข้างความสำเร็จของลูกค้าคนไทยทุกๆคน”คำพูดจาก ทดลองสล็อต pg

ขณะที่ นางชื่นกมล ทัพพะรังสี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงข้อเสนอพิเศษด้านการเช่าซื้อว่า โตโยต้า ลิสซิ่ง ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินการประกันภัยที่เหมาะสม โปรแกรมเช่าใช้พิเศษให้ความสะดวกเหนือความเป็นเจ้าของ รวมทั้งโปรแกรมส่งเสริมการขายในช่วงเปิดตัว เพื่อสร้างโอกาสการเป็นเจ้าของให้ง่ายขึ้นด้วยค่างวดต่ำกว่าเดิมเฉลี่ยมากกว่า 10% พร้อมขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดที่ 108 เดือน เป็นต้น

นายโนริอากิ กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์ลดลงมาก โดย 10 เดือนที่ผ่านมาลดลง 7% เนื่องจากการให้สิืนเชื่อยังเข้มงวดต่อไป ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดรวมอยู่ที่ 840,000 คัน โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 289,000 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 34% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ของโตโยต้า ส่วนยอดขายในช่วง 10 เดือนของปีนี้ลดลง 7% ซึ่งการเปิดตัวกระบะไฮลักซ์ แชมป์ ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีก็ไม่ได้ทำให้ตลาดเติบโตได้ เพียงแค่ช่วยพยุงตลาดเท่านั้นคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด

กระบะไฮลักซ์ แชมป์ ผลิตจากโรงงานที่สำโรง มีกำลังการผลิตเดือนละ 38,000 คัน โดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากถึง 90% นอกจากนี้ยังวางแผนเปิดตัวกระบะไฮลักซ์ แชมป์ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย นอกจากนี้กระบะใหม่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคแล้ว โตโยต้ายังคงเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเฉพาะโครงการรถบีอีวี (รถไฟฟ้า) ที่เร่งพัฒนา หรือกระบะไฮบริด ทั้งนี้เป็นการสร้างตัวเลือกให้หลากหลาย

       ราคาในแต่ละรุ่น(รวม VAT และเครื่องปรับอากาศ)

2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น รุ่นตกแต่งพิเศษ 577,000 บาท

2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อยาว 562,000บาท

2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะช่วงล้อสั้น 536,000 บาท

2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อยาว 527,000 บาท

2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อยาว 499,000 บาท

2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น 499,000 บาท

2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะช่วงล้อสั้น 487,000 บาท

2.0 เบนซิน เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อสั้น 459,000 บาท

By admin